ในสมัยที่บ้านเรา ( เมืองไทย ) ยังไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพกันสักเท่าไหร่
จุดเริ่มต้นเล็กๆของธุรกิจครอบครัว เริ่มจากปี พ.ศ. 2528
คุณแม่สุวนีย์ เลิศคูพินิจ ขณะนั้นยังเป็นสมุบัญชีของบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ได้มีโอกาสไปเดินงานเกษตรแฟร์กับเพื่อน ระหว่างเดินดูต้นไม้ จึงซื้อเมล็ดทานตะวันอบมาเดินไปชมงานไป ด้วยความเพลิดเพลินกับความกรุบกรอบของเมล็ดทานตะวัน
ประกอบกับการเป็นลูกคนจีนได้ถูกฝึกนิสัยค้าขายมาแต่เด็ก จึงเกิดไอเดียว่า "น่าจะรับมาขาย"
จึงเดินกลับไปเพื่อติดต่อขอซื้อมาขายต่อ
ในระยะแรกรับมาครั้งละ 5 กิโล มาบรรจุถุงพลาสติกใส ใช้เทียนรนปิดปากถุง เอาเศษสติกเกอร์ขาวที่เหลือจากเทปคลาสเส็ทมาใส่เครืองพิมพ์ดีด พิมพ์คำว่า " เมล็ดทานตะวันอบ " โดยมีลูกเล็กๆ 2 คนเป็นลูกมือช่วยกันทำตอนกลางคืนก่อนนอน
รุ่งเช้าก็หิ้วไปขายตามร้านค้าแถวบ้าน เมื่อได้เงินมาก็นำไปจ่ายค่าเมล็ดทานตะวัน และสั่งซื้อในชุดต่อไป จนเพื่อนคุณสุวนีย์ บอกว่าน่าจะมียี่ห้อนะคนจะได้เรียกถูก
จึงได้ไปขอชื่อจากพระโพธิรักษ์ แห่งสันติอโศก ( ซึ่งเป็นชุมชนที่เราอยู่ )
ได้ชื่อมาว่า "ธัญพืชพลังธรรมชาติ" และเพื่อนคุณสุวนีย์ก็ออกแบบโลโก้ให้ฟรี ต้องขอบคุณ คุณชาญ สุธาราพงศ์
จวบจนปัจจุบัน จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ กลายเป็นธุรกิจครอบครัวอายุ 30 ปี ในปี 2558
ได้มีผลิตภัณฑ์ 10 กว่ารายการ แต่ยังคงคอนเซ็ปเดิม คือ ผลิตในครัวเรื่อน และทำใหม่สดทุกวัน
เพื่อมาตราฐานความใหม่ สด และสะอาด คือสิ่งที่เรายึดถือและปฏิบัติมาตลอด 30 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น